การขนส่งทางทะเลที่ซบเซาแม้ในช่วงพีคซีซั่นจะเอื้อประโยชน์ต่อการฟื้นตัวของการขนส่งทางอากาศหรือไม่
อุปทานส่วนเกินที่เกิดขึ้นกับการขนส่งในโหมดต่าง ๆ เมื่อผู้ประกอบการลงทุนอย่างมากในการเพิ่มขีดความสามารถของการขนส่งเพื่อรับมือกับปริมาณความต้องการที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากการระบาดใหญ่จะยังคงมีอิทธิพลอย่างมากในตลาดขนส่ง อย่างไรก็ตาม มีหลายสาเหตุที่บ่งชี้ว่าควรมีการเตรียมพร้อมอย่างระมัดระวังในช่วงครึ่งหลังของปี 2023 โดยเฉพาะผู้ที่ประกอบธุรกิจการขนส่งทางอากาศ
การขนส่งทางทะเลทั่วโลก ภาคคลังสินค้าและโลจิสติกส์ รวมทั้งการขนส่งภายในประเทศด้วยรถบรรทุกและรถไฟของสหรัฐฯ ล้วนกำลังส่งสัญญาณในระดับที่แตกต่างกันเพื่อบอกให้ทราบถึงความจุส่วนเกินอันเนื่องมาจากอุปสงค์ที่ชะลอตัวลง คุณพอล บิงแฮม ผู้อำนวยการฝ่ายงานที่ปรึกษาด้านการขนส่งห่วงโซ่อุปทานของ S&P Global Market Intelligence เรียกสถานการณ์นี้ว่าเป็น “ปรากฏการณ์ตลาดความผันผวนสูง” หลังการระบาดใหญ่ ซึ่งเขาเชื่อว่าน่าจะแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนในห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกอยู่ในขณะนี้
คุณบิงแฮมกล่าวย้ำว่า เมื่ออุปสงค์เข้าสู่ระยะสูงสุด อุตสาหกรรมจะทำการเพิ่มขีดความสามารถ แรงงาน อุปกรณ์ และสถานที่ แต่เขาตั้งข้อสังเกตว่า การเพิ่มสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้จะทำให้เกิดความล่าช้า และยังมีเรื่องของอุปสงค์ที่จะอ่อนตัวลงในอีกไม่กี่เดือนให้หลัง
เมื่อช่วงพีคซีซั่นมีความไม่แน่นอนเช่นนี้ คำถามที่ตามมาคือ ทำอย่างไรจึงจะรักษาสมดุลระหว่างอุปสงค์และความจุเอาไว้ได้ “เราสังเกตเห็นว่าการเติบโตของปริมาณในปัจจุบันเป็นไปในแบบ “ราบเรียบ” และด้วยองค์ประกอบของความไม่แน่นอนในตลาด คนในแวดลงทุกรายในตลาดจำเป็นต้องใช้วิธีการที่ยืดหยุ่นและคล่องตัวเพื่อปรับเปลี่ยนขีดความสามารถของตน” คุณนิกิ แฟรงค์ ซีอีโอของ DHL Global Forwarding Asia Pacific กล่าว
คุ้มค่าที่จะอ่านเช่นกัน