ภาคการขนส่งทางอากาศ คาดว่าจะฟื้นตัวดีขึ้นในช่วงเดือน ‘พฤศจิกายน’
ตลาดการขนส่งทางอากาศจะพบเจออะไรต่อไป หากพูดเป็นภาษาดนตรี ตลาดกำลังคาดหวังอยากจะได้ ‘พฤศจิกาอันแสนหวาน’ อย่างเพลงที่ SZA เคยร้องไว้ ไม่ใช่ ‘ฝนเดือนพฤศจิกายน’ อันแสนหม่นหมอง
ทว่านักวิจารณ์ นักวิเคราะห์ และผู้ปฏิบัติงานกลับยังเห็นต่างกันว่า ความหวังของภาคการขนส่งทางอากาศนั้นจะเจิดจรัสหรือแย่ลงกันแน่
ฝ่ายที่เชื่อมั่นในเชิงบวกนั้นมองว่า เศรษฐกิจกำลังจะฟื้นตัวในไม่ช้าและชี้ไปที่การใช้จ่ายที่แข็งแกร่งของผู้บริโภคและสัญญาณการขยายตัวเศรษฐกิจทั่วโลกพร้อมกับที่คาดการณ์อย่างมั่นใจว่า ตลาดจะเข้าสู่ฤดูกาลการขยายตัวถึงขีดสุดในไตรมาสที่สี่ดังที่เคยเป็น
ฝ่ายที่เชื่อมั่นในเชิงลบนั้นจับจ้องที่ ‘การดีดตัวกลับ’ หลังการล็อกดาวน์ของจีนที่ดูอ่อนแรง การคาดการณ์เศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐฯ และขีดจำกัดการฟื้นตัวส่วนเกิน ทั้งหมดส่งให้เชื่อกันว่า ฟ้ากำลังจะถล่มลงมา
ความเป็นจริงนั้นคงจะเป็นเช่นเดียวกับทุก ๆ ครั้งที่ผ่านมาคือ จะตกอยู่ในจุดใดจุดหนึ่งระหว่างทั้งสองขั้วอันสุดโต่งนี้ “เรายังคงเชื่อมั่นว่า ความต้องการในเอเชียจะฟื้นกลับมาอีกครั้งในช่วงท้ายของปีและการลดลงที่จะเกิดขึ้นของสหรัฐฯ และยุโรปจะอยู่ในระดับที่ไม่มากนัก” คุณเคลวิน เหลียง ซีอีโอของ DHL Global Forwarding Asia Pacific กล่าว “แต่สัญญาณในตลาดขณะนี้ก็สับสนปนเปกันอย่างไม่ต้องสงสัย”
ความมุ่งหวังของฝ่ายที่มองในแง่บวก
ฝ่ายที่เชื่อมั่นในเชิงบวกกับช่วงเวลาที่เหลืออยู่ของปี 2023 อาทิ คุณแบรนดอน ฟรายด์ กรรมการบริหารของ Airforwarders Association เชื่อว่า อัตราค่าขนส่งนั้นลดต่ำ “ไม่ใช่ของจริง” จากการที่ผู้ให้บริการขนส่งเพิ่มขีดความสามารถเพิ่มเติมเพื่อเตรียมตัวรับกระแสผู้โดยสารช่วงฤดูร้อน
“เรากำลังถอยลงมาจากปริมาณสูงเสียดฟ้าที่เราได้เห็นระหว่างช่วงภาวะการระบาด ซึ่งเราทุกคนรู้ดีว่าเป็นสิ่งที่ไม่ยั่งยืนในระยะยาว แต่นี่ไม่ใช่ความล้มเหลว เรากำลังปรับสู่ภาวะปกติ” คุณฟรายด์ อธิบาย “เราต้องพุ่งตะลุยอย่างกระทิงในช่วงครึ่งปีหลัง ผู้บริโภคยังคงใช้จ่ายอยู่ และผู้โดยสารก็ยังคงใช้บริการบินกันอยู่”
ขณะเดียวกัน ดัชนีผลผลิตของ J.P.Morgan Global Composite Output Index ได้เพิ่มสูงขึ้นเป็น 54.2 จุดในเดือนเมษายน ในเวลาที่การเติบโตของการผลิตสินค้าและบริการและดัชนีย่อยยอดการสั่งซื้อได้พุ่งแตะจุดสูงสุดใหม่นับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2021 และเดือนมีนาคม 2022 เป็นต้นมาตามลำดับ คุณเบนเนทท์ พาริช นักเศรษฐศาสตร์โลกของ J.P.Morgan ชี้ว่า กิจกรรมเศรษฐกิจทั่วโลกยังคงรวบรวมแรงหนุนต่อเนื่องได้ในช่วงเริ่มต้นไตรมาสที่สอง โดยที่อุตสาหกรรมการผลิตกำลังฟื้นตัวและ “แรงกดดันสุดขีดด้านราคา” จากปีที่แล้วเริ่มผ่อนคลายไป
ข้อมูลการเงินล่าสุดจากผู้ค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐฯ ก็ชี้นำเช่นกันว่า สินค้าคงคลังส่วนเกินเริ่มลดน้อยลงแล้วและการเติมสต็อกสินค้าจะสามารถเร่งปริมาณการซื้อขายได้ในเร็ว ๆ นี้ ขณะเดียวกัน การขาดแคลนสิ่งจำเป็นในการผลิตที่สำคัญ โดยเฉพาะในภาคเทคโนโลยียังคงสร้างโอกาสสำหรับการจัดส่งที่สำคัญอยู่
ฝ่ายที่เชื่อมั่นในเชิงบวกยังชี้ปัจจัยสนับสนุนอย่างดัชนีความมั่นใจของผู้บริโภคต่าง ๆ และข้อมูลการใช้จ่าย ราคาเชื้อเพลิงเครื่องบินที่ลดลง และข้อเท็จจริงเรื่องการชะงักงันที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ของห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทชิปปิ้งต้องหันมาใช้การขนส่งทางอากาศ
มุมมองในเชิงที่บวกลดลง
ฝ่ายที่เชื่อมั่นในเชิงลบเองนั้นก็มีข้อมูลสนับสนุนของตน โดยชี้อย่างปฏิเสธไม่ได้ว่า แม้ PMI ต่าง ๆ จะเพิ่มขึ้นในเดือนเมษายน แต่ส่วนใหญ่แล้วเป็นการผลักดันโดยการเติบโตในภาคการบริการเมื่อผู้บริโภคเปลี่ยนจากการซื้อสินค้ามาเป็นการซื้อการบริการ และพลิกแนวโน้มที่ขับเคลื่อนตลาดการขนส่งในช่วงปีของภาวะการระบาดอันแสนอลหม่านให้ย้อนกลับ
รายงานสถานการณ์การขนส่งทางอากาศ หรือ Airfreight State of the Industry ของ DHL ประจำเดือนพฤษภาคม ชี้ว่า ปริมาณการขนส่งยังคงต่ำอยู่และขีดความสามารถการขนส่งทางอากาศทั่วโลกนั้นสูงกว่าหนึ่งปีก่อนหน้า 14 เปอร์เซ็นต์ ความถี่ไฟล์ทบินที่สูงจากความต้องการผู้โดยสารที่สูงขึ้นได้ผลักดันขีดจำกัดพื้นที่ระวางใต้ท้องเครื่องให้เพิ่มขึ้น 22 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ทำให้สายการบินส่วนใหญ่มี “ขีดความสามารถพร้อมใช้งานอยู่ในมือ”
ด้วยขีดความสามารถอันเหลือเฟือที่มี แต่ความกังวลกลับเกิดขึ้นจากระดับการส่งออกที่ลดตัวลง ดัชนีชี้นำด้านการส่งออกของเอเชีย (ไม่รวมญี่ปุ่น) ของบริษัทวิเคราะห์ด้านการเงินโนมูระ หรือ NELI บันทึกข้อมูลได้ที่ 80.3 จุดในเดือนมิถุนายน 2023 โนมูระยังชี้อีกด้วยว่า หลังการเพิ่มขึ้นในเดือนเมษายนและพฤษภาคมแล้ว การลดตัวยังส่งสัญญาณการฟื้นตัวเพียงเล็กน้อยและไม่ราบรื่น โดยมีความเสี่ยงจะลดตัวลงซ้ำในรอบการส่งออกเนื่องจากความต้องการสุดท้ายที่แผ่วลงจากสหรัฐฯ และยุโรป
คุณบรูซ ชาน กรรมการบริษัทการลงทุนและการธนาคาร Stifel ตั้งข้อสังเกตกับองค์กร Baltic Exchange ว่า กรณีฐานสำหรับปี 2023 และต้นปี 2024 คือ หากมีการฟื้นตัวของภาคการขนส่งก็จะเป็นไปอย่างเล็กน้อยและค่อยเป็นค่อยไป โดยเป็นผลสืบเนื่องมาจากการผลัดเปลี่ยนจากสินค้าสู่ การบริการที่ต่อเนื่องและแรงกดดันจากอัตราเงินเฟ้อ โดยเฉพาะในด้านอาหารและพลังงาน ที่มีต่อการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นของผู้บริโภค
ทั้งหมดล้วนแต่หมายความว่า สถานการณ์การฟื้นตัวการขนส่งทางอากาศในช่วงหลังของปีนี้ยังคงไม่กระเตื้องมากนัก
แนวทางแบบสมดุล
ความเป็นไปได้ที่การขนส่งทางเครื่องบินจะขึ้นถึงจุดสูงสุดในไตรมาสที่สี่นั้นยังคงมีอยู่ ทว่าไม่ใช่เรื่องที่แน่นอนแต่อย่างใด “หากคุณฟังการรายงานผลประกอบการของบริษัทชิปปิ้ง คุณจะได้ยินบริษัทหลายรายทัดทานเรื่องความคาดหวังที่จะมีการเติมสต็อกสินค้าครั้งใหญ่ในช่วงท้ายปี” คุณนีลล์ ฟาน เดอ วาว หัวหน้าเจ้าหน้าที่ขนส่งทางเครื่องบินของ Xeneta ระบุ
แต่การที่บริษัทชิปปิ้งยังคงต้องรักษาความคล่องตัวและเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับช่วงสูงสุดปลายปีที่อาจเกิดขึ้นนั้นถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง “ยังมีโอกาสเหลือเฟือที่ตลาดจะฟื้นตัว และตลาดการขนส่งทางอากาศจะต้องปรับตัวให้ได้อย่างฉับไวเพื่อจะฝ่าฟันเดือนอันท้าทายข้างหน้าไปให้ได้” คุณเหลียง กล่าวเสริม
คุ้มค่าที่จะอ่านเช่นกัน