การหลบเลี่ยงการหยุดชะงัก: ความเสี่ยง 5 ประการในห่วงโซ่อุปทานในปี 2566 ที่คุณต้องรู้
มีสุภาษิตโบราณบทหนึ่งที่ดูจะเหมาะกับความเสี่ยงในห่วงโซ่อุปทานในวันนี้มาก นั่นคือ เพียงเพราะขาดตะปู อาณาจักรจึงล่มสลาย เคยได้ยินกันมาก่อนไหม สุภาษิตนี้มีอยู่ว่า เพียงเพราะขาดตะปู จึงขาดเกือกม้า เพียงเพราะขาดเกือกม้า จึงขาดม้าศึก เพียงเพราะขาดม้าศึก จึงขาดทหารม้า เพียงเพราะขาดทหารม้า จึงพ่ายศึก เพียงเพราะพ่ายศึก อาณาจักรจึงล่มสลาย ทั้งหมดเพียงเพราะขาดตะปูหนึ่งตัว
พูดอีกอย่างก็คือ การมองข้ามสิ่งที่ดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กน้อย (เรามีตะปูเพียงพอหรือไม่) สามารถก่อผลพวงเป็นลูกโซ่ไปสู่หายนะได้
ในห่วงโซ่อุปทานโลกที่ทั้งหมดล้วนเชื่อมโยงถึงกันในทุกวันนี้ เหตุการณ์ที่ดูเหมือนไม่สำคัญและไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องอื่น ๆ ในสายตาของคนนอกอาจสร้างความปั่นป่วนให้กับทั้งภูมิภาคและอุตสาหกรรมได้ การชะงักงันในปี 2022 เน้นย้ำความเป็นจริงใหม่นี้อย่างชัดเจน
การพบ “ตะปู” ตัวนี้แต่เนิ่น ๆ และวางแผนเตรียมไว้จึงเป็นเรื่องที่คุ้มค่าอย่างยิ่ง ไม่อย่างนั้นคุณอาจต้องตามแก้ไขปัญหาจนอาจถึงขั้นอาณาจักรล่มสลายได้ นี่เป็นเหตุผลว่าเพราะอะไรเราจึงทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญที่ Everstream Analytics ซึ่งเป็นบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกและความเสี่ยงของห่วงโซ่อุปทานระดับโลก
"ความล้มเหลวในการดำเนินงานที่สำคัญมากหลายครั้งเกิดขึ้นจากเหตุการณ์ความชะงักงันที่เกิดขึ้นลึกลงไปในห่วงโซ่คุณค่า" คุณจูลี เกอร์เดแมน ซีอีโอของ Everstream Analytics กล่าว
Everstream ค้นพบห้าความเสี่ยงในห่วงโซ่อุปทานสำหรับปี 2023 ที่ทุกคนในวงการโลจิสติกส์ควรต้องทราบเอาไว้
การล้มละลายของกิจการขนาดเล็ก
บริษัทขนาดเล็กมักไม่เป็นที่สนใจของใครนักในยามที่ต้องปิดกิจการลง ดังนั้นเมื่อถึงเวลาที่คุณได้รู้ว่า คุณไม่สามารถจัดหาชิ้นส่วนหนึ่งมาได้เพราะซัพพลายเออร์ของซัพพลายเออร์ของคุณล้มละลายไปจึงมักจะสายเกินไปเสียแล้ว ผลสืบเนื่องจากความเสี่ยงในห่วงโซ่อุปทานข้อนี้มีความเป็นไปได้ตั้งแต่การต้องเร่งทางเลือกใหม่อย่างปัจจุบันทันด่วนจนถึงการปิดสายการผลิตลง หรือทั้งสองอย่าง จะอย่างไรก็ตาม การตามแก้ปัญหานั้นเป็นสิ่งที่มีค่าใช้จ่ายสูง
นักเศรษฐศาสตร์ทั่วโลกนั้นคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจะเติบโตอย่างอ่อนแอในปี 2023 แม้จะคาดกันว่า บริษัทขนาดใหญ่จะสามารถต้านทานมรสุมที่กำลังจะเข้ามาถึงได้ แต่กิจการขนาดเล็กและขนาดกลางนั้นจะต้องล้มลุกคลุกคลานแน่ในสภาพการณ์ที่ผันผวนเช่นนี้ และการล้มละลายที่สูงขึ้นจะต้องตามมาอย่างแน่นอน
บทวิเคราะห์ของ Everstream ชี้ว่าการล้มละลายมากกว่า 1,400 เหตุการณ์ในจีน เยอรมนี และสหรัฐอเมริกานั้นส่งผลกระทบไปถึงลูกค้าของพวกเขาในปี 2022 การปิดกิจการเหล่านั้นมากกว่าสามในสี่ส่วนเป็นกิจการในอุตสาหกรรมการผลิต อิเล็กทรอนิกส์ โลจิสติกส์ ยานยนต์ และเคมีภัณฑ์
เราจะหลบหลีกการชะงักงันที่อาจเกิดขึ้นนี้ได้อย่างไร
คำตอบอย่างสั้นก็คือ การใช้แหล่งผลิตที่หลากหลาย ความเสี่ยงเรื่องการปิดกิจการของกิจการขนาดเล็กมักเกิดขึ้นในเครือข่ายซัพพลายระดับรองของคุณ หลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ไม่ทันตั้งตัวเหล่านี้ด้วยการบ่งชี้จุดเชื่อมโยงที่มีแหล่งผลิตเดียวในซัพพลายเออร์ระดับ 2 และ 3 ของคุณแล้วเพิ่มทางเลือกอื่นเข้าไปในห่วงโซ่อุปทานของคุณ
การล้มละลายแยกตามอุตสาหกรรมในจีน เยอรมนี และสหรัฐอเมริกาในปี 2022 (5 อันดับแรก)
การล้มละลายแยกตามอุตสาหกรรมในจีน เยอรมนี และสหรัฐอเมริกาในปี 2022 (5 อันดับแรก)
38%: การผลิต
14%: อิเล็กทรอนิกส์
11%: โลจิสติกส์
10%: ยานยนต์
6%: เคมีภัณฑ์
การโจมตีทางไซเบอร์
คุณอาจประหลาดใจที่ได้รู้ว่า การโจมตีด้วยไวรัสเรียกค่าไถ่ หรือ Ransomware นั้นพบเจอได้บ่อยมากกว่าการเจาะข้อมูล ถึงอย่างนั้นก็ตาม หากแฮกเกอร์สามารถยึดข้อมูลของคุณเพื่อเรียกค่าไถ่ได้ มันก็สามารถขโมยข้อมูลของคุณไปได้เช่นกัน
การโจมตีทางไซเบอร์ของโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลกนั้นเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในระหว่างปี 2021 และ 2022 ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่คาดหวังว่า อาชญากรรมการเงินจะเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้งจากแนวโน้มการตกต่ำของเศรษฐกิจ ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อการดำเนินงานเริ่มเปลี่ยนไปอยู่บนคลาวด์เพิ่มขึ้น อาชญากรไซเบอร์ก็ยิ่งมีเป้าหมายให้เลือกจู่โจมมากยิ่งขึ้น แรงขับเคลื่อนอื่นได้แก่ ความตึงเครียดภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มสูงขึ้น เช่น สงครามในยูเครน และกลยุทธ์ไวรัสเรียกค่าไถ่แบบใหม่ ๆ Everstream กล่าวว่า มีโอกาส 70% ที่ห่วงโซ่อุปทานจะได้รับผลกระทบจากความเสี่ยงนี้
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แฮกเกอร์ได้พุ่งเป้าไปที่อุตสาหกรรมขนาดใหญ่เพียงไม่กี่ราย: อิเล็กทรอนิกส์ การผลิต และโลจิสติกส์ ซึ่งเป็นไปได้ว่า เพราะเป็นอุตสาหกรรมที่ทำเงินได้สูงที่สุด แต่ผลที่ตามมานั้นเหมือนกันสำหรับทุกบริษัท โดยสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดคือการผลิตที่หยุดชะงัก เหยื่อการโจมตีไซเบอร์ 20-30% รายงานว่าตนต้องหยุดการผลิตไป
เราจะหลบหลีกการชะงักงันที่อาจเกิดขึ้นนี้ได้อย่างไร
คำตอบอย่างสั้นคือ การทำงานเป็นทีม การโจมตีซัพพลายเออร์ระดับรองอาจทำให้คุณเปราะบาง มีโอกาสเปิดช่องโหว่ขึ้นในเครือข่ายของคุณหรือแพร่การติดต่อสู่องค์ประกอบที่อยู่เหนือขึ้นไปได้ เพื่อจะปกป้องความปลอดภัยและความสมบูรณ์ของเครือข่ายของคุณ คุณควรสร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด รวมทั้งผสานความร่วมมือกับซัพพลายเออร์และผู้รับเหมาให้มากยิ่งขึ้น
การโจมตีทางไซเบอร์แยกตามอุตสาหกรรมในปี 2022 (5 อันดับแรก)
การโจมตีทางไซเบอร์แยกตามอุตสาหกรรมในปี 2022 (5 อันดับแรก)
21%: อิเล็กทรอนิกส์
15%: การผลิต
13%: โลจิสติกส์
9%: สินค้าโภคภัณฑ์
8%: น้ำมัน ปิโตรเลียม และเคมีภัณฑ์
การละเมิดข้อบังคับด้านสภาพแวดล้อม สังคม และธรรมภิบาล (ENVIRONMENTAL, SOCIAL, AND GOVERNANCE หรือ ESG)
มีโอกาสเป็นอย่างยิ่งที่จะมีใครสักคนพบการละเมิดข้อบังคับด้าน ESG ในซัพพลายเออร์ระดับรองของคุณในปีนี้ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และการค้าปลีก นักสืบค้นข้อมูลทางสื่อ องค์กรไม่แสวงผลกำไร หรือ NGO และอีกหลายฝ่ายต่างจับตาดูแนวปฏิบัติด้าน ESG ขององค์กร มองหาสัญญาณมลพิษทางอากาศและน้ำ การใช้พลังงานสูง และสภาวะแรงงานที่ไม่ดีตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทานกันมากยิ่งขึ้น และภาครัฐเองก็ตอบสนองด้วยกฎหมายการตรวจสอบห่วงโซ่อุปทานใหม่ที่ยิ่งเพิ่มการเผชิญความเสี่ยงมากยิ่งขึ้น กฎหมายห่วงโซ่อุปทานเยอรมันฉบับใหม่ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2023 เป็นตัวอย่างล่าสุด
Everstream ให้คะแนนความเสี่ยงนี้ที่ 75% และบ่งชี้ซัพพลายเออร์ระดับรองเกือบ 200 รายที่ต้องสงสัยว่าจะมีความเชื่อมโยงกับแนวปฏิบัติ ESG ที่น่ากังขา เรามีแนวโน้มที่จะได้เห็นชื่อบริษัทเหล่านี้ขึ้นพาดหัวข่าวในปีนี้
เราจะหลบหลีกการชะงักงันที่อาจเกิดขึ้นนี้ได้อย่างไร
คำตอบอย่างสั้นก็คือ ความชาญฉลาดด้าน ESG การเปรียบเทียบรายชื่อซัพพลายเออร์ที่คุณรู้จักกับรายชื่อของรัฐบาลหรือทำการสำรวจด้วยตัวเองโดยตรงนั้นไม่เพียงพออีกต่อไปแล้ว และประชาชนก็จะไม่ยอมรับข้ออ้างว่าคุณไม่รู้อีกต่อไป กลับกัน คุณจะต้องตามให้ทันปัญหาการปฏิบัติตาม ESG และใช้มาตรการเชิงรุกในการค้นหาความเชื่อมโยงกับผู้ที่มีโอกาสจะละเมิดข้อบังคับ
ราคาที่สูงขึ้น
จากสงครามยูเครนที่เกิดขึ้น ผู้ผลิตในยุโรปต่างประสบผลกระทบจากราคาเชื้อเพลิงและพลังงานที่สูงขึ้น ระหว่างที่ทั้งภูมิภาคเร่งหาทางเป็นอิสระจากก๊าซธรรมชาติของรัสเซีย อุตสาหกรรมที่ใช้พลังงานปริมาณมากนั้นต้องใช้เวลานับเดือนหรืออาจเป็นปีในการหาแหล่งพลังงานที่ไว้วางใจได้มากเพียงพอมาให้ได้
ในปี 2022 ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นและโครงการริเริ่มของ รัฐบาลในการลดการใช้พลังงานลงและได้สร้างความเสียหายอย่างหนักกับบริษัทในอุตสาหกรรมที่ใช้พลังงานสูง อุตสาหกรรมการผลิตนั้นได้รับความเสียหายมากที่สุดโดยมีส่วนถึง 70% ของการชะงักงันด้านการผลิตที่เกี่ยวข้องกับพลังงานในยุโรปในปี 2022 ด้วยเหตุนี้ ผู้ผลิตเหล็กกล้า อะลูมิเนียม และเคมีภัณฑ์รายใหญ่ของภูมิภาคจึงจำเป็นต้องปรับลดการผลิตลง ซึ่งส่งผลกระทบต่อเนื่องไปทั้งห่วงโซ่อุปทานด้านอาหาร เครื่องดื่ม และยานยนต์
ความเสี่ยงห่วงโซ่อุปทานนี้มีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบในภูมิภาคไปเกินกว่าปี 2023 เนื่องจากภาคการผลิตนั้นยังไม่มีแนวโน้มที่จะฟื้นศักยภาพกลับมาเต็มที่ในเร็ว ๆ นี้ Everstream ประเมินโอกาสการเผชิญความเสี่ยงนี้ไว้ที่ 80% โดยเฉพาะบริษัทที่มีแหล่งผลิตโลหะ ปุ๋ย และแก้วจากยุโรป
เราจะหลบหลีกการชะงักงันที่อาจเกิดขึ้นนี้ได้อย่างไร
คำตอบอย่างสั้นก็คือ การใช้แหล่งผลิตที่หลากหลาย การชะงักงันที่บันทึกไว้ในปี 2022 นั้นจะยังคงดำเนินต่อไปในปี 2023 และต่อ ๆ ไป ดังนั้นโปรดถือว่านี่เป็นความเสี่ยงในห่วงโซ่อุปทานระยะยาวและตอบสนองอย่างเหมาะสม ค้นหาและกำจัดจุดคอขวดที่อาจเกิดขึ้น ด้วยการเพิ่มความหลากหลายของแหล่งวัตถุดิบระดับรองจากหลากหลาย ๆ แหล่ง
การชะงักงันการผลิตที่เกี่ยวข้องกับพลังงานในยุโรปแยกตามอุตสาหกรรม
การชะงักงันการผลิตที่เกี่ยวข้องกับพลังงานในยุโรปแยกตามอุตสาหกรรม
70%: การผลิต
2%: น้ำมันและเชื้อเพลิง
19%: เคมีภัณฑ์
1%: ยานยนต์
8%: อาหารและเครื่องดื่ม
1%: อิเล็กทรอนิกส์
การชะงักงันในการผลิต
หลังการล็อกดาวน์และหยุดการผลิตทั่วโลกเป็นเวลาสองปี ผู้ผลิตหลายรายนั้นยังคงประสบปัญหาการรับมือกับมาตรการโควิด-19 อยู่ Everstream เห็นความเป็นไปได้ 90% ที่จะเกิดความล่าช้าและการยกเลิกคำสั่งซื้อในปีนี้จากการชะงักงันของการผลิต
ในปี 2022 ทาง Everstream บันทึกการล็อกดาวน์มากกว่า 85 ครั้งในเมืองอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของประเทศจีนเพียงอย่างเดียว แม้ว่านโยบายของที่นั่นและที่อื่น ๆ จะผ่อนปรนลงแล้ว แต่มาตรการนั้นยังคงแตกต่างกันไปในแต่ละภูมิภาค รวมถึงเราไม่รู้แน่ชัดว่าการล็อกดาวน์จะกลับมาอีกหรือไม่หากอัตราการติดเชื้อเพิ่มขึ้น
เราจะหลบหลีกการชะงักงันที่อาจเกิดขึ้นนี้ได้อย่างไร
คำตอบอย่างสั้นคือ การสร้างความหลากหลาย อย่าอาศัยเพียงความมั่นใจจากซัพพลายเออร์ระดับ Tier 1 พวกเขาอาจไม่มีความสามารถในการมองเห็นและติดตามตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทาน และดังนั้นจึงมองไม่เห็นความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นทั้งหมด การตอบสนองต่อความเสี่ยงห่วงโซ่อุปทานนี้คือ การสร้างกลยุทธ์ความหลากหลายเข้าไปในแผนปี 2023 ของคุณ โดยมุ่งเป้าที่การเพิ่มความหลากหลายของแหล่งผลิตจากหลายประเภท หรือหากมีการใช้แนวทางนี้อยู่แล้วก็ให้เร่งความเร็วการใช้งานมากขึ้น
การวิเคราะห์บิ๊กดาต้าเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ขาดไม่ได้ของการจัดการห่วงโซ่อุปทานทุกวันนี้ และในแง่การจัดการความเสี่ยงห่วงโซ่อุปทานเองก็เช่นเดียวกัน การบันทึกข้อมูลความเสี่ยงในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต รวมทั้งนำความชาญฉลาดทั้งของมนุษย์และปัญญาประดิษฐ์เข้ามาช่วยคาดการณ์โอกาสในการเผชิญ ความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้น ความรุนแรง และความสำคัญของความเสี่ยง
เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว เราก็สามารถหลบหลีกการชะงักงันที่อาจเกิดขึ้นและลดความเสี่ยงที่ลูกค้าของเราจะขาด “ตะปู” ลงได้ จนไม่ต้องกังวลเรื่องอาณาจักรล่มสลาย
บทความนี้ตีพิมพ์ครั้งแรกบน DHL Delivered และนำมาตีพิมพ์ซ้ำโดยได้รับอนุญาต
This story was first published on DHL Delivered and was republished with permission.
คุ้มค่าที่จะอ่านเช่นกัน