Your default browser language is set to . Browse this site in another language: Continue color Created with Sketch.

รายงานและเอกสารรายงาน

Read logistics-related industry reports, & sector-specific important-export guides here.

ดูแหล่งข้อมูลทั้งหมด

Navigating Latest Tariff Developments

Global trade is growing more complex with new U.S. tariffs and global responses. DHL is here to help you navigate the changes.

Explore our solutions
  • Get a sales representative to contact me
  • I agree to the  Terms and Privacy Notice
คุ้มค่าที่จะอ่านเช่นกัน

การหลบเลี่ยงการหยุดชะงัก: ความเสี่ยง 5 ประการในห่วงโซ่อุปทานในปี 2566 ที่คุณต้องรู้

ประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายด้วยการเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับความเสี่ยงในห่วงโซ่อุปทานที่อาจมองเห็นไม่ชัดเจนเหล่านี้
ประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายด้วยการเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับความเสี่ยงในห่วงโซ่อุปทานที่อาจมองเห็นไม่ชัดเจนเหล่านี้
16 กุมภาพันธ์ 2023 •

มีสุภาษิตโบราณบทหนึ่งที่ดูจะเหมาะกับความเสี่ยงในห่วงโซ่อุปทานในวันนี้มาก นั่นคือ เพียงเพราะขาดตะปู อาณาจักรจึงล่มสลาย เคยได้ยินกันมาก่อนไหม สุภาษิตนี้มีอยู่ว่า เพียงเพราะขาดตะปู จึงขาดเกือกม้า เพียงเพราะขาดเกือกม้า จึงขาดม้าศึก เพียงเพราะขาดม้าศึก จึงขาดทหารม้า เพียงเพราะขาดทหารม้า จึงพ่ายศึก เพียงเพราะพ่ายศึก อาณาจักรจึงล่มสลาย ทั้งหมดเพียงเพราะขาดตะปูหนึ่งตัว

พูดอีกอย่างก็คือ การมองข้ามสิ่งที่ดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กน้อย (เรามีตะปูเพียงพอหรือไม่) สามารถก่อผลพวงเป็นลูกโซ่ไปสู่หายนะได้

ในห่วงโซ่อุปทานโลกที่ทั้งหมดล้วนเชื่อมโยงถึงกันในทุกวันนี้ เหตุการณ์ที่ดูเหมือนไม่สำคัญและไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องอื่น ๆ ในสายตาของคนนอกอาจสร้างความปั่นป่วนให้กับทั้งภูมิภาคและอุตสาหกรรมได้ การชะงักงันในปี 2022 เน้นย้ำความเป็นจริงใหม่นี้อย่างชัดเจน

การพบ “ตะปู” ตัวนี้แต่เนิ่น ๆ และวางแผนเตรียมไว้จึงเป็นเรื่องที่คุ้มค่าอย่างยิ่ง ไม่อย่างนั้นคุณอาจต้องตามแก้ไขปัญหาจนอาจถึงขั้นอาณาจักรล่มสลายได้ นี่เป็นเหตุผลว่าเพราะอะไรเราจึงทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญที่ Everstream Analytics ซึ่งเป็นบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกและความเสี่ยงของห่วงโซ่อุปทานระดับโลก

"ความล้มเหลวในการดำเนินงานที่สำคัญมากหลายครั้งเกิดขึ้นจากเหตุการณ์ความชะงักงันที่เกิดขึ้นลึกลงไปในห่วงโซ่คุณค่า" คุณจูลี เกอร์เดแมน ซีอีโอของ Everstream Analytics กล่าว

Everstream ค้นพบห้าความเสี่ยงในห่วงโซ่อุปทานสำหรับปี 2023 ที่ทุกคนในวงการโลจิสติกส์ควรต้องทราบเอาไว้

การล้มละลายของกิจการขนาดเล็ก

บริษัทขนาดเล็กมักไม่เป็นที่สนใจของใครนักในยามที่ต้องปิดกิจการลง ดังนั้นเมื่อถึงเวลาที่คุณได้รู้ว่า คุณไม่สามารถจัดหาชิ้นส่วนหนึ่งมาได้เพราะซัพพลายเออร์ของซัพพลายเออร์ของคุณล้มละลายไปจึงมักจะสายเกินไปเสียแล้ว ผลสืบเนื่องจากความเสี่ยงในห่วงโซ่อุปทานข้อนี้มีความเป็นไปได้ตั้งแต่การต้องเร่งทางเลือกใหม่อย่างปัจจุบันทันด่วนจนถึงการปิดสายการผลิตลง หรือทั้งสองอย่าง จะอย่างไรก็ตาม การตามแก้ปัญหานั้นเป็นสิ่งที่มีค่าใช้จ่ายสูง

นักเศรษฐศาสตร์ทั่วโลกนั้นคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจะเติบโตอย่างอ่อนแอในปี 2023 แม้จะคาดกันว่า บริษัทขนาดใหญ่จะสามารถต้านทานมรสุมที่กำลังจะเข้ามาถึงได้ แต่กิจการขนาดเล็กและขนาดกลางนั้นจะต้องล้มลุกคลุกคลานแน่ในสภาพการณ์ที่ผันผวนเช่นนี้ และการล้มละลายที่สูงขึ้นจะต้องตามมาอย่างแน่นอน

บทวิเคราะห์ของ Everstream ชี้ว่าการล้มละลายมากกว่า 1,400 เหตุการณ์ในจีน เยอรมนี และสหรัฐอเมริกานั้นส่งผลกระทบไปถึงลูกค้าของพวกเขาในปี 2022 การปิดกิจการเหล่านั้นมากกว่าสามในสี่ส่วนเป็นกิจการในอุตสาหกรรมการผลิต อิเล็กทรอนิกส์ โลจิสติกส์ ยานยนต์ และเคมีภัณฑ์

เราจะหลบหลีกการชะงักงันที่อาจเกิดขึ้นนี้ได้อย่างไร

คำตอบอย่างสั้นก็คือ การใช้แหล่งผลิตที่หลากหลาย ความเสี่ยงเรื่องการปิดกิจการของกิจการขนาดเล็กมักเกิดขึ้นในเครือข่ายซัพพลายระดับรองของคุณ หลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ไม่ทันตั้งตัวเหล่านี้ด้วยการบ่งชี้จุดเชื่อมโยงที่มีแหล่งผลิตเดียวในซัพพลายเออร์ระดับ 2 และ 3 ของคุณแล้วเพิ่มทางเลือกอื่นเข้าไปในห่วงโซ่อุปทานของคุณ

การล้มละลายแยกตามอุตสาหกรรมในจีน เยอรมนี และสหรัฐอเมริกาในปี 2022 (5 อันดับแรก)

38%: การผลิต

14%: อิเล็กทรอนิกส์

11%: โลจิสติกส์

10%: ยานยนต์

6%: เคมีภัณฑ์

การโจมตีทางไซเบอร์

คุณอาจประหลาดใจที่ได้รู้ว่า การโจมตีด้วยไวรัสเรียกค่าไถ่ หรือ Ransomware นั้นพบเจอได้บ่อยมากกว่าการเจาะข้อมูล ถึงอย่างนั้นก็ตาม หากแฮกเกอร์สามารถยึดข้อมูลของคุณเพื่อเรียกค่าไถ่ได้ มันก็สามารถขโมยข้อมูลของคุณไปได้เช่นกัน

การโจมตีทางไซเบอร์ของโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลกนั้นเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในระหว่างปี 2021 และ 2022 ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่คาดหวังว่า อาชญากรรมการเงินจะเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้งจากแนวโน้มการตกต่ำของเศรษฐกิจ ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อการดำเนินงานเริ่มเปลี่ยนไปอยู่บนคลาวด์เพิ่มขึ้น อาชญากรไซเบอร์ก็ยิ่งมีเป้าหมายให้เลือกจู่โจมมากยิ่งขึ้น แรงขับเคลื่อนอื่นได้แก่ ความตึงเครียดภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มสูงขึ้น เช่น สงครามในยูเครน และกลยุทธ์ไวรัสเรียกค่าไถ่แบบใหม่ ๆ Everstream กล่าวว่า มีโอกาส 70% ที่ห่วงโซ่อุปทานจะได้รับผลกระทบจากความเสี่ยงนี้

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แฮกเกอร์ได้พุ่งเป้าไปที่อุตสาหกรรมขนาดใหญ่เพียงไม่กี่ราย: อิเล็กทรอนิกส์ การผลิต และโลจิสติกส์ ซึ่งเป็นไปได้ว่า เพราะเป็นอุตสาหกรรมที่ทำเงินได้สูงที่สุด แต่ผลที่ตามมานั้นเหมือนกันสำหรับทุกบริษัท โดยสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดคือการผลิตที่หยุดชะงัก เหยื่อการโจมตีไซเบอร์ 20-30% รายงานว่าตนต้องหยุดการผลิตไป

เราจะหลบหลีกการชะงักงันที่อาจเกิดขึ้นนี้ได้อย่างไร

คำตอบอย่างสั้นคือ การทำงานเป็นทีม การโจมตีซัพพลายเออร์ระดับรองอาจทำให้คุณเปราะบาง มีโอกาสเปิดช่องโหว่ขึ้นในเครือข่ายของคุณหรือแพร่การติดต่อสู่องค์ประกอบที่อยู่เหนือขึ้นไปได้ เพื่อจะปกป้องความปลอดภัยและความสมบูรณ์ของเครือข่ายของคุณ คุณควรสร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด รวมทั้งผสานความร่วมมือกับซัพพลายเออร์และผู้รับเหมาให้มากยิ่งขึ้น

การโจมตีทางไซเบอร์แยกตามอุตสาหกรรมในปี 2022 (5 อันดับแรก)

21%: อิเล็กทรอนิกส์

15%: การผลิต

13%: โลจิสติกส์

9%: สินค้าโภคภัณฑ์

8%: น้ำมัน ปิโตรเลียม และเคมีภัณฑ์

การละเมิดข้อบังคับด้านสภาพแวดล้อม สังคม และธรรมภิบาล (ENVIRONMENTAL, SOCIAL, AND GOVERNANCE หรือ ESG)

มีโอกาสเป็นอย่างยิ่งที่จะมีใครสักคนพบการละเมิดข้อบังคับด้าน ESG ในซัพพลายเออร์ระดับรองของคุณในปีนี้ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และการค้าปลีก นักสืบค้นข้อมูลทางสื่อ องค์กรไม่แสวงผลกำไร หรือ NGO และอีกหลายฝ่ายต่างจับตาดูแนวปฏิบัติด้าน ESG ขององค์กร มองหาสัญญาณมลพิษทางอากาศและน้ำ การใช้พลังงานสูง และสภาวะแรงงานที่ไม่ดีตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทานกันมากยิ่งขึ้น และภาครัฐเองก็ตอบสนองด้วยกฎหมายการตรวจสอบห่วงโซ่อุปทานใหม่ที่ยิ่งเพิ่มการเผชิญความเสี่ยงมากยิ่งขึ้น กฎหมายห่วงโซ่อุปทานเยอรมันฉบับใหม่ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2023 เป็นตัวอย่างล่าสุด

Everstream ให้คะแนนความเสี่ยงนี้ที่ 75% และบ่งชี้ซัพพลายเออร์ระดับรองเกือบ 200 รายที่ต้องสงสัยว่าจะมีความเชื่อมโยงกับแนวปฏิบัติ ESG ที่น่ากังขา เรามีแนวโน้มที่จะได้เห็นชื่อบริษัทเหล่านี้ขึ้นพาดหัวข่าวในปีนี้

เราจะหลบหลีกการชะงักงันที่อาจเกิดขึ้นนี้ได้อย่างไร

คำตอบอย่างสั้นก็คือ ความชาญฉลาดด้าน ESG การเปรียบเทียบรายชื่อซัพพลายเออร์ที่คุณรู้จักกับรายชื่อของรัฐบาลหรือทำการสำรวจด้วยตัวเองโดยตรงนั้นไม่เพียงพออีกต่อไปแล้ว และประชาชนก็จะไม่ยอมรับข้ออ้างว่าคุณไม่รู้อีกต่อไป กลับกัน คุณจะต้องตามให้ทันปัญหาการปฏิบัติตาม ESG และใช้มาตรการเชิงรุกในการค้นหาความเชื่อมโยงกับผู้ที่มีโอกาสจะละเมิดข้อบังคับ

ราคาที่สูงขึ้น

จากสงครามยูเครนที่เกิดขึ้น ผู้ผลิตในยุโรปต่างประสบผลกระทบจากราคาเชื้อเพลิงและพลังงานที่สูงขึ้น ระหว่างที่ทั้งภูมิภาคเร่งหาทางเป็นอิสระจากก๊าซธรรมชาติของรัสเซีย อุตสาหกรรมที่ใช้พลังงานปริมาณมากนั้นต้องใช้เวลานับเดือนหรืออาจเป็นปีในการหาแหล่งพลังงานที่ไว้วางใจได้มากเพียงพอมาให้ได้

ในปี 2022 ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นและโครงการริเริ่มของ รัฐบาลในการลดการใช้พลังงานลงและได้สร้างความเสียหายอย่างหนักกับบริษัทในอุตสาหกรรมที่ใช้พลังงานสูง อุตสาหกรรมการผลิตนั้นได้รับความเสียหายมากที่สุดโดยมีส่วนถึง 70% ของการชะงักงันด้านการผลิตที่เกี่ยวข้องกับพลังงานในยุโรปในปี 2022 ด้วยเหตุนี้ ผู้ผลิตเหล็กกล้า อะลูมิเนียม และเคมีภัณฑ์รายใหญ่ของภูมิภาคจึงจำเป็นต้องปรับลดการผลิตลง ซึ่งส่งผลกระทบต่อเนื่องไปทั้งห่วงโซ่อุปทานด้านอาหาร เครื่องดื่ม และยานยนต์

ความเสี่ยงห่วงโซ่อุปทานนี้มีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบในภูมิภาคไปเกินกว่าปี 2023 เนื่องจากภาคการผลิตนั้นยังไม่มีแนวโน้มที่จะฟื้นศักยภาพกลับมาเต็มที่ในเร็ว ๆ นี้ Everstream ประเมินโอกาสการเผชิญความเสี่ยงนี้ไว้ที่ 80% โดยเฉพาะบริษัทที่มีแหล่งผลิตโลหะ ปุ๋ย และแก้วจากยุโรป

เราจะหลบหลีกการชะงักงันที่อาจเกิดขึ้นนี้ได้อย่างไร

คำตอบอย่างสั้นก็คือ การใช้แหล่งผลิตที่หลากหลาย การชะงักงันที่บันทึกไว้ในปี 2022 นั้นจะยังคงดำเนินต่อไปในปี 2023 และต่อ ๆ ไป ดังนั้นโปรดถือว่านี่เป็นความเสี่ยงในห่วงโซ่อุปทานระยะยาวและตอบสนองอย่างเหมาะสม ค้นหาและกำจัดจุดคอขวดที่อาจเกิดขึ้น ด้วยการเพิ่มความหลากหลายของแหล่งวัตถุดิบระดับรองจากหลากหลาย ๆ แหล่ง

การชะงักงันการผลิตที่เกี่ยวข้องกับพลังงานในยุโรปแยกตามอุตสาหกรรม

70%: การผลิต

2%: น้ำมันและเชื้อเพลิง

19%: เคมีภัณฑ์

1%: ยานยนต์

8%: อาหารและเครื่องดื่ม

1%: อิเล็กทรอนิกส์

การชะงักงันในการผลิต

หลังการล็อกดาวน์และหยุดการผลิตทั่วโลกเป็นเวลาสองปี ผู้ผลิตหลายรายนั้นยังคงประสบปัญหาการรับมือกับมาตรการโควิด-19 อยู่ Everstream เห็นความเป็นไปได้ 90% ที่จะเกิดความล่าช้าและการยกเลิกคำสั่งซื้อในปีนี้จากการชะงักงันของการผลิต

ในปี 2022 ทาง Everstream บันทึกการล็อกดาวน์มากกว่า 85 ครั้งในเมืองอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของประเทศจีนเพียงอย่างเดียว แม้ว่านโยบายของที่นั่นและที่อื่น ๆ จะผ่อนปรนลงแล้ว แต่มาตรการนั้นยังคงแตกต่างกันไปในแต่ละภูมิภาค รวมถึงเราไม่รู้แน่ชัดว่าการล็อกดาวน์จะกลับมาอีกหรือไม่หากอัตราการติดเชื้อเพิ่มขึ้น

เราจะหลบหลีกการชะงักงันที่อาจเกิดขึ้นนี้ได้อย่างไร

คำตอบอย่างสั้นคือ การสร้างความหลากหลาย อย่าอาศัยเพียงความมั่นใจจากซัพพลายเออร์ระดับ Tier 1 พวกเขาอาจไม่มีความสามารถในการมองเห็นและติดตามตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทาน และดังนั้นจึงมองไม่เห็นความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นทั้งหมด การตอบสนองต่อความเสี่ยงห่วงโซ่อุปทานนี้คือ การสร้างกลยุทธ์ความหลากหลายเข้าไปในแผนปี 2023 ของคุณ โดยมุ่งเป้าที่การเพิ่มความหลากหลายของแหล่งผลิตจากหลายประเภท หรือหากมีการใช้แนวทางนี้อยู่แล้วก็ให้เร่งความเร็วการใช้งานมากขึ้น

การวิเคราะห์บิ๊กดาต้าเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ขาดไม่ได้ของการจัดการห่วงโซ่อุปทานทุกวันนี้ และในแง่การจัดการความเสี่ยงห่วงโซ่อุปทานเองก็เช่นเดียวกัน การบันทึกข้อมูลความเสี่ยงในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต รวมทั้งนำความชาญฉลาดทั้งของมนุษย์และปัญญาประดิษฐ์เข้ามาช่วยคาดการณ์โอกาสในการเผชิญ ความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้น ความรุนแรง และความสำคัญของความเสี่ยง

เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว เราก็สามารถหลบหลีกการชะงักงันที่อาจเกิดขึ้นและลดความเสี่ยงที่ลูกค้าของเราจะขาด “ตะปู” ลงได้ จนไม่ต้องกังวลเรื่องอาณาจักรล่มสลาย

บทความนี้ตีพิมพ์ครั้งแรกบน DHL Delivered และนำมาตีพิมพ์ซ้ำโดยได้รับอนุญาต

This story was first published on DHL Delivered and was republished with permission.