Your default browser language is set to . Browse this site in another language: Continue color Created with Sketch.
  • Get a sales representative to contact me
  • I agree to the  Terms and Privacy Notice
คุ้มค่าที่จะอ่านเช่นกัน

2025: ปีแห่งความปั่นป่วนของการขนส่งคอนเทนเนอร์

ความผันผวนของภาษีศุลกากร การเปลี่ยนแปลงพันธมิตร และความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์เป็นแรงกระตุ้นให้มีความไม่แน่นอนที่เพิ่มมากขึ้นในการขนส่งทางทะเล
ความผันผวนของภาษีศุลกากร การเปลี่ยนแปลงพันธมิตร และความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์เป็นแรงกระตุ้นให้มีความไม่แน่นอนที่เพิ่มมากขึ้นในการขนส่งทางทะเล
14 กุมภาพันธ์ 2025 •

การขึ้นค่าธรรมเนียมอย่างฉับพลัน การเปลี่ยนแปลงพันธมิตร และความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ ทำให้เกิดความไม่แน่นอนในการขนส่งทางเรือมากขึ้นเรื่อยๆ แม้ปี 2025 จะเป็นปีงูตามตำราจีน แต่สำหรับวงการขนส่งทางเรือ ดูเหมือนจะเป็นปีแห่งความผันผวน

ห่วงโซ่อุปทานกำลังสั่นคลอนจากนโยบายที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและคาดเดาไม่ได้จากทำเนียบขาว ในช่วงแรกของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่สองของโดนัลด์ ทรัมป์ ในขณะที่ข่าวเกี่ยวกับการขึ้นภาษีศุลกากรและมาตรการบังคับใช้ต่างๆ กำลังยึดครองพื้นที่หน้าหนึ่ง แต่ความท้าทายที่แท้จริงอยู่ที่การตีความผลกระทบที่จะเกิดขึ้น เนื่องจากการประกาศนโยบายมักจะตามมาด้วยการเปลี่ยนทิศทางอย่างกะทันหัน

การเก็บภาษีนำเข้า 25% จากเม็กซิโกและแคนาดา ซึ่งได้เริ่มบังคับใช้ไปแล้ว ก่อนจะถูกระงับไป 30 วัน หลังความปั่นป่วนในตลาดหุ้น และสหรัฐฯ ได้ประสบความสำเร็จในการเจรจาด้านการควบคุมชายแดน แต่เมื่อเวลาใกล้จะหมดลง สิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังการระงับ 30 วันสิ้นสุดลงยังเป็นสิ่งที่ไม่มีใครคาดเดาได้ เศรษฐกิจของทวีปอเมริกาเหนือมีความผูกพันกันอย่างลึกซึ้ง แต่ความแน่นอนกลับเป็นสิ่งที่หายาก

เกณฑ์ De minimis ที่ผันผวน

สินค้านำเข้าจากจีนถูกเพิ่มภาษีศุลกากร 10% บวกกับคำสั่งผู้บริหารให้ระงับกฎการค้าแบบ de minimis สำหรับสินค้าจากจีน กฎข้อนี้อนุญาตให้นำเข้าสินค้ามูลค่าต่ำกว่า 800 ดอลลาร์สหรัฐ (772 ยูโร) เข้าสหรัฐฯ ได้โดยไม่ต้องเสียภาษี ซึ่งนับได้ว่าเป็นเสาหลักของการเติบโตด้านอีคอมเมิร์ซของผู้ค้าออนไลน์ในจีน

แต่ทว่า ความโกลาหลก็ได้เกิดขึ้น ปัญหาคอขวดในการทำเนินการทำให้ฝ่ายบริหารต้องเลื่อนการระงับเกณฑ์ de minimis ออกไปชั่วคราว ในระหว่างที่รอการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน การแบนนี้จะมีผลบังคับใช้ก็ต่อเมื่อรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์แจ้งต่อประธานาธิบดีว่า ระบบต่างๆ ที่เหมาะสมสำหรับการประมวลผลและจัดเก็บรายได้จากภาษีศุลกากรได้อย่างครบถ้วนและรวดเร็วนั้นมีพร้อมแล้ว

สิ่งท้าทายคืออะไร การจัดการพัสดุเกือบสี่ล้านชิ้นต่อวัน จำเป็นต้องมีการลงทุนของรัฐบาลทั้งในด้านโครงสร้างพื้นฐานและบุคลากร ซึ่งเป็นแนวทางที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นจากรัฐบาลที่มีนโยบายลดขนาดภาครัฐ

ในขณะเดียวกัน มาตรการภาษีสำหรับสินค้าส่งออกจากสหภาพยุโรปเข้าไปสหรัฐฯ กำลังอยู่ในกระบวนการพิจารณา รวมถึงจะมีการเก็บภาษี 25% สำหรับสินค้าเหล็กและอะลูมิเนียมที่นำเข้าจากต่างประเทศทั้งหมด ซึ่งจะมีการประกาศบังคับใช้ในเดือนมีนาคมนี้ ทางด้านจีนได้ตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีสินค้าส่งออกจากสหรัฐฯ พร้อมขยายการควบคุมการส่งออกแร่สำคัญ เช่น บิสมัท อินเดียม โมลิบดีนัม เทลลูเรียม และทังสเตน

“มาตรการด้านภาษีศูลกากรนั้นเปลี่ยนแปลงเป็นรายสัปดาห์” นิกิ แฟรงค์ ประธานบริหารของ DHL Global Forwarding Asia Pacific กล่าว “การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วนี้ได้กระตุ้นให้ผู้ขนส่งสินค้าหลายรายเร่งการขนส่งและกักตุนสินค้า เพื่อส่งสินค้าเข้าสหรัฐฯ ก่อนที่นโยบายจะเข้มงวดขึ้นอีก เราจะยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและจะทำงานร่วมกับลูกค้าเพื่อช่วยให้พวกเขาเข้าใจและปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต"

แรงกระแทกของนโยบาย

แนวนโยบายสะท้านฟ้าสะเทือนดินของรัฐบาลทรัมป์นั้นไม่ได้จำกัดอยู่แค่เรื่องภาษีศุลกากรเท่านั้น การลงทุนของจีนในปานามาและท่าเรือยุทธศาสตร์ใกล้คลองปานามาได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง

ภายใต้แรงกดดันจากสหรัฐฯ ปานามาได้ถอนตัวจากโครงการ Belt and Road Initiative ของจีน ซึ่งการเคลื่อนไหวครั้งนี้อาจกลายเป็นชนวนแห่งความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ในอนาคต

ส่วนภายในประเทศ สภาฯ กำลังเดินหน้าพิจารณาร่างกฎหมายการต่อเรือและโครงสร้างพื้นฐานท่าเรือเพื่อความมั่งคั่งและความมั่นคงของอเมริกา (SHIPS) ซึ่งเป็นการร่วมมือกันระหว่างทั้งสองพรรค เป้าหมายของร่างกฎหมายนี้คือฟื้นฟูอุตสาหกรรมต่อเรือสหรัฐฯ และลดการพึ่งพาเรือที่สร้างโดยจีน มีข้อกำหนดสำคัญข้อหนึ่งที่บังคับว่า เริ่มตั้งแต่ปี 2029 สินค้าจากจีนอย่างน้อย 10% จะต้องขนส่งด้วยเรือที่ขึ้นธงสหรัฐฯ ทั้งนี้ผลกระทบต่อเจ้าของสินค้ายังคงไม่ชัดเจน

ปัญหาที่คลองสุเอส

ในขณะที่ความตึงเครียดทางการค้ายกระดับขึ้น บริษัทขนส่งทางเรือต้องรับมือกับอุปสรรคเพิ่มขึ้น ความหวังด้านเสถียรภาพในการผ่าน คลองสุเอซในช่วงต้นปี 2025 เริ่มริบหรี่ ท่ามกลางความไม่แน่นอนของการสงบศึกในกาซา และภัยคุกคามที่ไม่จบสิ้นจากกลุ่มฮูธีในทะเลแดง บริษัทประกันภัยต่างๆ ยังคงจัดให้พื้นที่นี้เป็นเขตความเสี่ยงสูง

แม้อัตราค่าขนส่งแบบชั่วคราวจะลดลง แต่เรือบรรทุกสินค้าทั่วโลกยังคงบรรทุกอย่างเต็มพิกัด รายงาน Ocean Freight Market Update ของ DHL ประจำเดือนกุมภาพันธ์ ระบุว่าปี 2025 จะมีความจุเรือสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยคาดว่าจะเติบโต 5% ตลอดทั้งปี แต่ภาคการขนส่งยังคงตึงเครียด โดยมีเรือเพียง 0.2% (แค่ 30 ลำ) ที่จอดว่างอยู่ในปัจจุบัน

ทั้งนี้คาดว่าจะมีความผันผวนมากยิ่งขึ้นในขณะที่ เครือข่ายพันธมิตรการขนส่งทางเรือปรับต่ำ ซึ่งได้ทำให้เกิดความขัดข้องในการให้บริการเพิ่มเติม นี่เป็นข่าวร้ายสำหรับผู้ส่งสินค้า เมื่อข้อมูลล่าสุดจาก Sea-Intelligence ประจำเดือนธันวาคมเปิดเผยว่า ความน่าเชื่อถือของตารางเดินเรือทั่วโลกลดลงเกือบ 1% ต่อเดือน จนเหลือเพียง 53.8% ในปัจจุบัน

"เครือข่ายพันธมิตรที่กำลังเปลี่ยนแปลงและรูปแบบการให้บริการที่ยังไม่คงที่ ทำให้ความผันผวนจะยังคงเป็นปัจจัยที่หลีกเลี่ยงไม่ได้" Praveen Gregory รองประธานอาวุโสฝ่ายขนส่งทางเรือ DHL Global Forwarding Asia Pacific กล่าว "ผู้ขนส่งสินค้าต้องสร้างความยืดหยุ่นในการดำเนินงานของพวกเขา และเตรียมรับมือกับความปั่นป่วนต่างๆ ที่จะเป็นความปกติใหม่ในการบริหารจัดการปี 2025"