ทำความเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับการขนส่งสินค้าแบบเบรกบัลค์
การขนส่งสินค้าแบบเบรกบัลค์ก็เป็นตามชื่อของมัน ซึ่งก็คือเทคนิคการขนส่งที่แยกสินค้าเป็นชิ้น และขนส่งสินค้าขนาดใหญ่เป็นชิ้นแยกกัน แทนการขนส่งแบบบรรจุในตู้คอนเทนเนอร์
ซึ่งมีการใช้งานกันอย่างกว้างขวางในธุรกิจต่างๆ เพื่อการขนส่งสินค้าขนาดใหญ่เช่นกังหันลม ในปี 2022 เพียงปีเดียว Transnet National Ports (องค์กรบริหารท่าเรือแห่งชาติ) ในแอฟริกาใต้ได้จัดการขนส่งสินค้าแบบเบรกบัลค์เป็นปริมาณถึง 5.6 ล้านเมตริกตัน ซึ่งเพิ่มขึ้น 50 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปี 2021
การขนส่งแบบเบรกบัลค์ก็ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายในสหรัฐอเมริกาเช่นกัน Port of Los Angeles (ท่าเรือลอสแอนเจลิส) ได้บันทึกการส่งออกโลหะรีไซเคิล 748,652 เมตริกตัน และนำเข้าเหล็ก 1,053,088 เมตริกตันในปี 202
การขนส่งแบบแยกชิ้นคือคำตอบ
เหมาะสำหรับการขนส่งสินค้าขนาดใหญ่พิเศษที่ไม่สามารถบรรจุเข้าในตู้คอนเทนเนอร์ได้ การขนส่งสินค้าแบบเบรกบัลค์ช่วยใช้ธุรกิจต่างๆ สามารถขนส่งสินค้าที่มีรูปร่างพิเศษไปทั่วโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพและด้วยต้นทุนที่ลดลง.
จุดสินค้าเบรกบัลค์หรือท่าเทียบเรือสินค้าแบบเบรกบัลค์นั้นได้มีการนำไปใช้เพื่อรองรับกระบวนการขนส่งสินค้าแบบเบรกบัลค์ จุดสำคัญเหล่านี้จะมีอุปกรณ์พิเศษและมีพนักงานที่มีความชำนาญในการจัดการการขนส่งสินค้าแบบเบรกบัลค์ และได้ถูกสร้างมาเพื่อรองรับสินค้าที่หนักและมีขนาดใหญ่พิเศษ
การใช้สถานที่ดังกล่าวในการจัดการกับสินค้าขนาดใหญ่ ธุรกิจต่างๆ สามารถบรรทุกสินค้าของพวกเขาขึ้นเรือได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดความเสียหายด้วย นี่จึงทำให้สามารถจัดการสินค้าได้เร็วขึ้น ซึ่งในภาพรวมแล้วจะเป็นการช่วยลดต้นทุนในระยะยาว
การแยกชิ้นส่วนเพื่อการขนส่งอย่างสะดวก
สินค้าที่ออกแบบมาให้สามารถถอดประกอบได้ง่ายนั้นเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการขนส่งสินค้าแบบเบรกบัลค์ เพราะทำให้สามารถขนส่งทางทะเลได้อย่างปลอดภัย
นอกจากสินค้าเช่นเครื่องจักรขนาดใหญ่และอุปกรณ์ก่อสร้างแล้ว ตัวอย่างของ สินค้าแบบไม่บรรจุตู้คอนเทนเนอร์ (NCCs) ได้แก่อุปกรณ์เกี่ยวกับน้ำมันและก๊าซ กังหันลม เรือยอชต์ ยานพาหนะขนาดใหญ่พิเศษ เรือ รถเครน ใบพัดกังหัน ใบพัดเรือ เครื่องกำเนิดไฟฟ้า และเครื่องยนต์ขนาดใหญ่
Taking the cargo apart: The process
การขนส่งสินค้าแบบเบรกบัลค์ทำงานอย่างไร การขนส่งสินค้าขนาดใหญ่พิเศษมักจะจำเป็นต้องได้รับการจัดการเป็นพิเศษระหว่างการขนส่ง
กระบวนการนี้เริ่มต้นด้วยการเตรียมการของการบรรทุก ซึ่งจะต้องทำการวัดและประเมินอย่างละเอียดก่อนทำการบรรทุกสินค้าลงเรือ ปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาได้แก่ความจุของเรือ น้ำหนักและขนาดของสินค้า
การขนส่งสินค้าแบบเบรกบัลค์นั้นมักจะใช้อุปกรณ์การยกพิเศษต่างๆ เช่นเครนและรถโฟล์คลิฟท์เพื่อการเคลื่อนย้ายสินค้าขนาดใหญ่พิเศษลงเรืออย่างปลอดภัย
เมื่อสินค้าถูกจัดเข้าที่แล้ว จะต้องทำการยึดสินค้าลงบนดาดฟ้าเรือด้วยการโครง สายสลิง และโซ่ เพื่อป้องกันมิให้เคลื่อนไหวในสภาวะแปรปรวน
จากนั้นสินค้าจะถูกจัดลงเรือตามแผนการบรรจุสินค้า โดยการพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่นการกระจายน้ำหนัก ความมั่นคง และข้อกำหนดต่างๆ สำหรับสินค้าแต่ละประเภท
ระหว่างการขนส่ง สินค้าจะได้รับการดูแลโดยทีมงานของเรือ ซึ่งพวกเขาจะทำหน้าที่ระบุและแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว.
แยกชิ้นส่วนเพื่อขนส่งสินค้า
ทั้งนี้เนื่องจากแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นของสินค้าเทกองในการค้าทางทะเลระหว่างประเทศ ซึ่งมีปริมาณสูงถึง 3.3 พันล้านเมตริกตันในปี 2021 ดังนั้นการใช้การขนส่งแบบเบรกบัลค์จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการทำให้มั่นใจว่าสินค้าจะถูกขนส่งข้ามทะเลได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
การขนส่งสินค้าแบบเบรกบัลค์จะทำให้ธุรกิจต่างๆ สามารถขนส่งเครื่องจักรและอุปกรณ์ก่อสร้างขนาดใหญ่ และชิ้นส่วนต่างๆ ที่มีรูปร่างพิเศษได้ด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่ามาก เมื่อเทียบกับวิธีการอื่น
คุ้มค่าที่จะอ่านเช่นกัน